Review: สารสนเทศศึกษา มศว♡
(สวัสดีจากปี 2022 นะคะ น้อง ๆ ที่เข้ามาดูในช่วงนี้ ต้องขอแจ้งก่อนว่า ณ ปัจจุบัน เรา 4 และฝึกงานแล้วค่ะ และก็มีอีกหลายแง่มุมมาก ๆ หลังจากวันที่ได้เขียนบล็อกนี้ไป
จึงอยากมาแจ้งว่า ในบล็อกนี้ไม่ใช่ทั้งหมดของสารสนเทศนะคะ มีอีกหลายมุมมาก ๆ ที่น่าสนใจ ถ้ามีเวลาหลังจากนี้จะมาอัพเดทนะคะ หากน้องคนไหนต้องการจะทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถทัก Instragram @nemonahae มาได้เลยนะคะ💖) 28/04/2022
สวัสดีค่าทุกคน٩(˘◡˘)۶ ไม่รู้จะเริ่มยังไง บล็อกนี้ก็ตามชื่อเลยนะคะจะพูดเกี่ยวกับเอกสารสนเทศศึกษา(Information Studies) คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรือ มศว นั่นเอง เราจะตอบคำถามที่ส่วนใหญ่สงสัยเป็นข้อๆนะคะ ไม่ได้มารีวิวเพราะเป็นงานหรืออะไรนะคะ มาเพราะอยากมา มาเพราะมาตามแพชชั่น มาเพราะอยากมีประโยชน์ต่อโลกบ้างไม่ได้อยากสังเคราะห์แสงไปวัน ๆ ไปเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ!(͠≖ ͜ʖ͠≖)
Q: สารสนเทศศึกษาคืออะไร?
A: โดยชื่อเดิมของเอกนี้คือบรรณารักษศาสตร์ ถ้าพูดให้เห็นภาพคือการเป็นบรรณารักษ์นั่นแหล่ะค่ะ แต่อย่าพึ่ง!!! อย่าพึ่งหนีไปไหน อย่าพึ่งคิดว่าจะสามารถเป็นบรรณารักษ์ได้อย่างเดียว ฟังต่อก่อน ด้วยความที่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ข้อมูลหรือความรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องสมุดอีกต่อไป ทางภาควิชาจึงมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงหลักสูตรให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น จึงเป็นที่มาของสารสนเทศศึกษา
Q: เอกนี้เรียนเกี่ยวกับอะไร?
A: สารสนเทศศึกษาโดยส่วนใหญ่จะเรียนเกี่ยวกับการจัดการข้อมูล ก็มีทั้งวิชาที่เกี่ยวกับบรรณารักษศาสตร์ ที่เกี่ยวกับการจัดการความรู้หรือทรัพยากรในห้องสมุด และมีรายวิชาที่เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมอีกด้วย แต่ไม่ได้ยากมากขนาดนั้นเป็นพื้นฐานที่สอนเขียนโค้ด ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายค่ะ ถ้าพูดง่ายๆก็คือสามารถแบ่งออกเป็นสายบรรณารักษ์และสายคอมพิวเตอร์
ในบางรายวิชาน้องๆก็จะได้ออกแบบ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ คล้ายนิเทศนิด ๆ อย่างเช่นรายวิชาที่พี่เคยเรียนมีทั้งที่เป็น*วิชาเลือกและ*วิชาบังคับ ซึ่งหลากหลายมากน้อง ๆสามารถเลือกเรียนได้ตามความถนัดและความสนใจ
*วิชาบังคับ: ต้องเรียนทุกคนตามชื่อเลยคือบังคับให้เรียน
*วิชาเลือก: เลือกเรียนตัวไหนก็ได้ตามความสนใจ แต่ต้องลงหน่วยกิตให้ครบตามที่มหาลัยกำหนด
ตัวอย่างโปรเจคออกแบบเว็บไซต์แหล่งข้อมูลสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากวิชาในเอกแล้วน้องๆยังต้องเรียนวิชาSWUอีกด้วยเป็นวิชาบังคับของมหาลัยที่ทุกคนต้องเรียน เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย พละ สังคมพลเมืองวิวัฒน์(วิชาคนดี) วิทยาศาสตร์ เป็นต้น
Q:เรียนยังไง?
A: มีทั้งวิชาเลคเชอร์และวิชาที่ใช้คอมพิวเตอร์เรียนค่ะ (ใครไม่มีคอมพิวเตอร์ ทางคณะมีห้องคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้ค่ะ)
Q:จบมาทำงานอะไรได้บ้างคะ?
A: น้องๆอาจจะคิดว่าเป็นบรรณารักษ์ได้อย่างเดียว จริงๆแล้วงานสารสนเทศอยู่ในแทบทุกองค์กรเลยค่ะ ทุกองค์กรหรือทุกบริษัทมีข้อมูลที่ต้องจัดการ ถ้าน้องสังเกตดีๆคำว่าสารสนเทศจะอยู่รอบๆตัวน้องเลยค่ะ น้องๆสามารถเอาสิ่งที่เรียนรู้จากสาขาวิชานี้ไปทำได้หลายอย่างมาก ๆ บางทีน้องอาจจะไปเป็นผู้ดูแลระบบให้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งก็ได้ หรืออาจจะเป็นนักสารสนเทศที่เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งก็ได้
ลองคิดง่ายๆนะคะโลกนี้มีข้อมูลอยู่เป็นแสนเป็นล้านข้อมูลซึ่งมีเกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ถ้าหากไม่มีคนมาจัดการให้เป็นระบบให้ง่ายต่อการเข้าถึง มันก็จะยากต่อการนำมาใช้งานใช่ไหมคะ แล้วถ้ามีคนที่มาจัดการมารวบรวมมาจัดหมวดหมู่ให้กับมัน มันก็จะง่ายต่อการเข้าถึงและการเผยแพร่ คำถามที่ว่าจบมาทำงานอะไรน้องอาจจะเป็นคน ๆนั้นที่มาจัดการกับข้อมูลหรือความรู้ที่มีอยู่มากมายบนโลกนี้ค่ะ
Q: เรียนที่ไหน?
A: ปี 1 เรียนองครักษ์(นครนายก) ปี 2-4 เรียน ประสานมิตร(กรุงเทพฯ อโศก)ค่ะ
**ปี2563 เรียนออนไลน์ที่บ้านค่ะด้วยสถานการณ์ Covid-19 ห่วยแตกมากค่ะ(╥﹏╥)
Q: เรียนที่องครักษ์เป็นยังไงบ้าง?
A: จากประสบการณ์คนที่ไม่อยากไปอยู่หอ ไม่อยากเรียนไกลบ้าน อยากบอกว่าเป็นหนึ่งปีที่มีค่ามากๆ เป็นหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยอะไรใหม่ๆที่คิดถึงอยู่เสมอ อยู่หอใน ไปเรียนด้วยกระป๊อ(รถรับ-ส่งวนรอบม.) มีตลาดพลาซ่า ตลาดศูนย์แพทย์(ก๋วยเตี๋ยวไก่อร่อยมากกกกกกก) มีโรงเขียวที่กับข้าวถูกมากและได้เยอะมากถ้าเทียบกับที่ประสานมิตร ของกินอิ้มเอมมากองครักษ์อ่ะ
เวลาไปเรียนก็จะเรียนที่เรียนรวม ตึกสาธิต โรงยิม อย่างที่บอกมีกระป๊อรับ-ส่งหรือถ้าบางวันคนเยอะก็เดินได้ไม่ไกลมาก (ถ้ามีโอกาสจะมารีวิวองครักษ์ให้ฟังนะ ใครอยากอ่านก็บอกได้นะคะᕙ(^▿^-ᕙ))
มีกิจกรรมที่ม.เยอะมาก การอยู่หอในนี่แหล่ะทำให้เราสนิทกับเพื่อนๆไว เพราะชวนกันไปเล่นที่นู้นที่นี่ รู้จักเพื่อนใหม่เยอะไปหมด ถ้าใครเฟรนลี่หน่อยก็คือรับรองเลยว่าได้เพื่อนกลับมาเยอะแน่นอน
Q: เรียนที่ประสานมิตรเป็นยังไงบ้าง?
A: แตกต่างกันมากกับองครักษ์ มาเรียนแล้วก็นึกถึงองครักษ์ ทั้งๆที่ครั้งแรกที่ไปองครักษ์บอกกับตัวเองว่าปีเดียวเองทนๆไป แต่เอาจริงๆคือองครักษ์ดีกว่าในความคิดของพี่เองอ่ะนะ ที่ประสานมิตรก็คิอเรียนแล้วกลับบ้าน/หอ แอดวานซ์หน่อยก็ไปสยามบ้างไปเที่ยวคาเฟ่ไรงี้ แต่จริงๆก็แยกกันกลับบ้านเพราะการเดินทางมันต้องใช้เวลาจริงๆ ถ้าเย็นมากพวกรถไฟฟ้าBTS/MRT/ARL ก็จะคนเยอะ ส่วนในมหาลัยก็เรียนที่ตึกมนุษยศาตร์เลยค่ะ มีทั้งตึกเก่าและตึกใหม่ แต่ส่วนใหญ่จะได้เรียนที่ตึกเก่า มีบางวิชาไเรียนที่ตึกใหม่ ถ้าใครเคยไปโอเพ่นเฮ้าส์จะเห็นว่ามนุษยศาตร์มี 2 ตึก โรงอาหารก็ธรรมดาค่ะ บางอย่างก็แพงได้น้อย ไม่ค่อยอร่อย แต่ทุกวันอังคารกับวันพฤหัสบดีจะมีตลาดหน้ามอ ของกินก็จะเยอะ ห้องสมุดที่องครักษ์ดีกว่าเยอะเลยค่ะแง้ คิดถึงองครักษ์
Q: สังคมภายในเอกเป็นยังไง?
A:ในแง่ของรุ่นพี่กับรุ่นน้อง มีการรับน้องปกติแบบทั่วๆไป มีการสันทนาการ มีการลงระเบียบเล็กน้อยเท่าที่น้องควรจะรู้ ไม่มีการใช้ความรุนแรงค่ะ มาเรียนเป็นนักศึกษาไม่ได้ไปเรียนเป็นนักเลงจ้า ไม่อยากขายฝันด้วยคำว่าอยู่กันแบบพี่น้องรักกันกลมเกลียว แต่ก็อยู่กันแบบสนิทกันมีอะไรปรึกษากันส่งต่อชีทส่งต่อหนังสือตามสายรหัส มีอะไรสงสัยก็ปรึกษากันได้ตลอด มีกินข้าวด้วยกันปาร์ตี้ด้วยกันปกติเลยค่ะ
ส่วนในแง่ของภายในรุ่นเดียวกัน พี่ไม่สามารถการันตีได้ว่าน้องจะเจอสังคมแบบไหนหรือเพื่อนแบบไหน แต่ทุกคนต้องคิดไว้ว่าการอยู่ร่วมกันภายในสังคมเดียวกัน ควรจะเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน เคารพในความต่าง อะไรที่ทำแล้วมีผลกระทบต่อคนอื่นก็ปรับก็แก้ไข ไม่มีใครดีทุกอย่างและก็ไม่มีใครแย่ไปทุกอย่าง อยู่ที่ว่าจะเข้ากันได้มากน้อยแค่ไหน ทุกคนมาจาก 0 กันหมด อาจจะมีคนรู้จักกันมาก่อนแต่ส่วนใหญ่ก็อาจจะไม่รู้จักใครมาเลย ถ้าหากน้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว พี่เชื่อว่าน้องจะมีความสุขกับการเรียนอีก 4 ปีแน่นอนค่ะ ไม่ต้องกังวลกันไป คนประเภทเดียวกันจะดึงดูดกันด้วยความเข้ากันได้ᕙ(`▿´)ᕗ
ก็เป็นเรื่องราวคร่าวๆที่พี่พอจะสามารถถ่ายทอดให้น้องๆฟังได้ มีอีกหลายเรื่องที่สนุกมากๆที่น้องอาจจะต้องมาเจอด้วยตัวเองเพราะพี่ก็ไม่สามารถอธิบายให้น้องรู้สึกถึงมันได้ ยังไงก็หวังว่ามันจะช่วยเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกเรียนต่อในอีก 4 ปีสุดท้ายในฐานะนักศึกษา เอกสารสนเทศศึกษาอาจจะไม่ได้แมสมากในประเทศไทย คะแนนแอดอาจจะไม่ได้สูงมากมาย แต่มันก็ไม่ได้ความว่าสิ่งที่เราเรียนมันง่ายหรือมันไม่จำเป็นต่อสังคมนะคะ ไม่งั้นจะมีการจัดการเรียนการสอนกันไปทำไม ทุกเอกทุกคณะมีความยากง่ายต่างกันไป ไม่มีใครง่ายหรือยากกว่าใครเลย ถ้าโลกนี้คนที่ประสบความสำเร็จและอยู่รอดคือคนที่ประกอบอาชีพหมอ พยาบาล วิศวกร โลกคงไม่มีประชากรเยอะขนาดนี้หรอกค่ะ อะไรที่มันไม่แมสไม่ได้แปลว่ามันไม่สำคัญนะคะ
โอกาสเป็นของน้อง เลือกมันอย่างดีนะคะ และพี่เชื่อว่าถ้าหากน้องเชื่อในตัวเองและมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเลือกจริงๆ สิ่งๆนั้นจะพาน้องไปในที่ๆเหมาะสมสำหรับน้องเองในอนาคต ถ้าตั้งใจทำอะไรก็สำเร็จค่ะ สู้ๆนะคะทุกคน หวังว่าเราจะได้เจอกันน้า(✿◠‿◠)
ถ้าน้องมีข้อสงสัยตรงไหนสามารถเข้าไปสอบถามได้ที่ Twitter: @IS_Swu (แอดมินเป็นรุ่นพี่ในเอกเองจ้า) หรือถ้าอยากดูรูปกิจกรรมต่างๆที่เราทำก็เข้าไปดูได้ที่ Facebook: สารสนเทศศึกษา มศว
***พิมพ์ความคิดเห็นไว้ข้างล่างก็ได้นะคะ เดี๋ยวพี่จะเข้ามาตอบให้เพราะเราว่างมากและเหงาด้วย
ถ้าใครอยากปรึกษาเพิ่มเติมทักมาได้นะคะ(ยกเว้นเรื่องเงินนะคะ เศรษฐกิจไม่ดีค่ะทุกคน)
IG: @Nemonahae
nemonahae นิสิตเอกสารสนเทศชั้นปีที่ 2 (06/04/2020)
แก้ไข (07/04/2020)
แก้ไข (07/04/2020)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น